บทความที่ 1



ประวัติของขนมไทย

ขนมไทยนั้นมีมานานแล้ว ตั้งแต่เป็นสยามประเทศ สมัยนั้นได้ค้าขายกับต่างชาติ มีการแลกเปลี่ยนกันทั้งด้านสินค้าและวัฒนธรรม ขนมไทย ยุคแรกๆ มีแต่นำข้าวไปตำให้ได้เป็นแป้ง แล้วนำไปผสมกับน้ำตาล หรือมะพร้าว เพื่อทำเป็นขนม ส่วนขนมที่ใช้ไข่เป็นส่วนผสม เช่น ทองหยิบ ทองหยอด นั้น ท้าวทองหีบม้าหญิงสาวชาวโปรตุเกสเป็นคนคิดค้นขึ้นมา
ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมไทยเฉพาะวันสำคัญ เช่น งานทำบุญ งานแต่ง เป็นต้น เพราะขนมไทยบางอย่างใช้เวลาทำค่อนข้างนาน แต่ที่นิยมทำกันทุกๆภาคนั้นก็คือขนมที่ทำมาจากไข่ และมีความเชื่อกัน เช่น ถ้าใครกินขนมฝอยทองก็จะทำให้มีอายุยืน เป็นต้น
ต่อมาที่การค้าเจริญขึ้นในตลาดก็มีขนมมากมาย และถือว่าเป็นยุคที่ขนมไทยเป็นที่นิยม



ประเภทของขนมไทย

ขนมไทยนั้นมีการแยกประเภทไปตามขั้นตอนการทำ โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

- ประเภทกวน

การกวน คือ เป็นการที่นำส่วนผสมขนมที่เป็นของเหลวผสมคนเข้าด้วยกันจนงวด หรือ รวมเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกันจนข้นและเหนียว เช่น ขนมเปียกปูน ซ่าหริ่ม ขนมตะโก้ เป็นต้น


- ประเภทนึ่ง

การนึ่ง คือ การให้ความร้อนขึ้นกับอาหารที่ต้องการทำให้สุกโดยการใช้ 2 ชั้น ชั้นล่างใส่น้ำต้มให้เดือด ชั้นบนมีช่องตะแกรงสำหรับวางอาหารเหนือน้ำ และไอน้ำเดือดจากด้านล่างก็จะลอยตัวขึ้นผ่านตะแกรงทำให้อาหารสุกได้ เช่น ขนมเทียน การนึ่งขนม ขนมปุยฝ้าย เป็นต้น


- ประเภทเชื่อม

การเชื่อม คือ เป็นการใส่ส่วนผสมลงในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือดจนสุก เช่น ทองหยิบ ทองหยอด กล้วยเชื่อม จาวตาลเชื่อม และขนมเชื่อมที่ทำจากไข่ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมประเภทนี้ส่วนมากเป็นขนมที่ทำจากไข่แดงซะส่วนมาก


- ประเภททอด

การทอด คือ เป็นการทำขนมให้สุก ด้วยการนำขนมที่ต้องการจะทอด ใส่ลงในกระทะที่มีน้ำมัน ตั้งไฟร้อน แล้วทอดจนขนมสุกเหลืองตามต้องการ เช่น ขนมฝักบัว ขนมกง ขนมสามเกลอ เป็นต้น


- ประเภทอบ

การอบ คือ เป็นการนำขนมที่ต้องการอบใส่ภาชนะ แล้วนำเข้าเตาอบที่มีความร้อนรอบตัวโดยใช้ไฟล่างและไฟบน การอบต้องควบคุมความร้อนให้สม่ำเสมอและควบคุมให้เหมาะกับชนิดของขนมที่จะนำมาอบ เช่น ขนมหม้อแกง ขนมครก ขนมดอกลำเจียก เป็นต้น


- ประเภทต้ม

การต้ม คือ ขนมประเภทนี้จะใช้หม้อหรือกระทะต้มน้ำให้เดือด ใส่ขนมลงไปจนสุกแล้วตักขึ้น นำมาคลุกหรือโรยมะพร้าว เช่น ขนมถั่วแปบ ขนมเหนียว แล้วยังรวมกับขนมประเภทน้ำ ที่นิยมนำมาต้มกับกะทิ กินกับน้ำเชื่อมและน้ำกะทิ เช่น กล้วยบวชชี มันแกงบวด สาคูเปียก ลอดช่อง ซาหริ่ม เป็นต้น



ขนมไทย 4 ภาค 
   
  ภาคเหนือ 
     ส่วนใหญ่จะทำจากข้าวเหนียว โดยใช้วิธีการต้ม เช่น ขนมเทียน ขนมวง มักทำกันในเทศกาลสำคัญ ขนมที่นิยมทำในงานบุญ คือ ขนมใส่ไส้ ขนมที่หาซื้อได้ทั่วไป คือ ขนมปาด คล้ายขนมศิลาอ่อน ขนมที่มีเฉพาะฤดูหนาว คือ ข้าวหนุกงา เป็นงาคั่วตำกับข้าวเหนียว ขนมพื้นบ้านของภาคเหนือ คือ ขนมอาละหว่า คล้ายขนมหม้อแกง 

ขนมเทียน
  
  ภาคกลาง
     ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเจ้า เช่น ข้าวตัง นางเยี่ยวเล็ด ข้าวเหนียวมูน และมีขนมที่ได้รับสูตรมาจากในวัง เช่น ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมเผือก เป็นต้น 

ข้าวเหนียวมูน

  ภาคอีสาน 
     ขนมไทยในภาคอีสานจะเป็นขนมที่ทำง่าย ไม่พิถีพิถันมากเหมือนขนมภาคอื่น ขนมพื้นบ้านอีสานคือ ข้าวจี่ บายมะขาม ข้าวโป่ง และขนมในงานบุญพิธี คือ ข้าวประดับดิน ขนมพื้นบ้านของแต่ละจังหวัดในภาคนี้มักเป็นขนมง่ายๆ เช่น ข้าวเหนียวนึ่งจิ้มน้ำผึ้ง ข้าวจี่ เป็นต้น

ข้าวจี่

   
  ภาคใต้ 
     คนภาคใต้มีความเชื่อในเทศกาลวันสารท เดือนสิบ ซึ่งการทำบุญในเทศกาลนี้จะทำด้วยขนมที่มีเฉพาะในท้องถิ่นภาคใต้เท่านั้น เช่น ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ ขนมลูกสะบ้า ขนมดีซำ ขนมเจาะหู ขนมไข่ปลา ขนมแดง เป็นต้น

 ขนมลา


ขนมไทยมงคล 9 อย่าง 
     ทำไมถึงต้องมีขนมไทย 9 อย่างในงานมงคลต่างๆ เพราะคนไทยเชื่อกันว่าถ้ามีอาหารมงคลในงานจะทำให้มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต และเลข9คือเลขที่คนไทยมีความเชื่อกันว่าเป็นเลขมงคล ทำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า จึงเป็นที่มาของขนมไทยมงคล9อย่างที่มักจะนำมาอยู่ในงานพิธีต่างๆ

1. ทองหยิบ 
     เป็นขนมไทยโบราณสีเหลืองทองที่ทำจากไข่แดง ตีจนฟูและนำมาหยดลงในน้ำเชื่อม พอสุกก็นำมาจับจีบใส่ในถ้วยเล็กๆให้สวยงาม มีความหมาย คือ การหยิบเงินหยิบทองเพื่อความรุ่งเรือง


2. ทองหยอด 
     ขนมหวานสีเหลืองทองทำจากไข่แดง นำมาหยดลงในน้ำเชื่อม มีลักษณะคล้ายหยดน้ำกลมๆ เล็กๆ มีความหมาย คือ ให้ร่ำรวยเงินทอง

Image result for ทองหยอด

3. ฝอยทอง 
     ขั้นตอนการทำฝอยทองเพื่องานมงคลนั้นมีความเชื่อว่าห้ามตัดเส้นฝอยทอง ต้องทำเป็นแพให้มีเส้นยาวๆ มีความหมาย คือ การครองรักที่ยาวนาน มีชีวิตที่ยืนยาวเหมือนเส้นของฝอยทอง


4. ขนมชั้น 
     เป็นขนมไทยที่ถือเป็นขนมมงคลและจะต้องหยอดขนมชั้นให้ได้9ชั้น มีความหมาย คือ การได้เลื่อนชั้น เลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์ให้สูงยิ่งๆขึ้นไป


5. ขนมทองเอก 
     ขนมชนิดนี้มีความสวยงามเป็นรูปดอกไม้และเพิ่มความพิเศษคือ มีทองคำเปลวติดอยู่บนขนมด้วย ซึ่งคำว่าเอกแปลว่าที่หนึ่ง การให้ขนมทองเอก มีความหมาย คือ อวยพรให้เป็นที่หนึ่ง ให้มีความก้าวหน้าทางการงาน ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง


6. ขนมเม็ดขนุน 
     เป็นหนึ่งในขนมตระกูลทอง ที่เรียกว่าเม็ดขนุนเพราะมีรูปร่างคล้ายกับเม็ดขนุนนั่นเอง ภายในจะมีไส้ถั่วบด มีรสชาติหวานมัน มีความหมาย คือ มีคนคอยเกื้อหนุนจุนเจือ มีคนช่วยเหลือสนับสนุนไม่ว่าทางด้านการงานหรือเรื่องการใช้ชีวิต


7. ขนมจ่ามงกุฎ 
     เป็นขนมไทยที่ค่อนข้างจะทำยากเพราะมีหลายขั้นตอนในการทำ ไม่เหมือนกับทองหยิบ ทองหยอด และมีความหมาย คือ การมีเกียรติสูงสุด เป็นเจ้าคนนายคน ใช้เป็นการแสดงความยินดีที่ได้เลื่อนตำแหน่ง


8. ขนมเสน่ห์จันทร์ 
     เป็นขนมที่ประยุกต์มาจากต้นจันทน์ที่มีผลสีเหลือง โดยการทำขนมชนิดนี้จะปั้นให้เป็นลูกกลมๆ ใส่ผลจันทร์ป่น เพื่อให้มีกลิ่นหอมเหมือนผลลูกจันทร์ โดยชื่อของขนมได้ใส่คำว่า เสน่ห์ เข้าไป มีความหมาย คือ ความเป็นที่รัก มีเสน่ห์ มีคนรักคนเอ็นดู


9. ขนมถ้วยฟู 
     มีความหมาย คือ เป็นสิริมงคล มีความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู นิยมใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ เคล็ดลับของการทำขนมถ้วยฟูให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน คือ การใช้น้ำดอกไม้สดเป็นส่วนผสมและการอบร่ำด้วยดอกมะลิสดในขั้นตอนสุดท้ายของการทำ






















      https://cooking.kapook.com/view79919.html
      http://www.hilunch.com/tong-yib-tong-yord/
      http://www.zabwer.com/2015/12/kluay-buat-chi-or-banana-in-coconut-milk.html
      http://www.weddingmainong.com/category/ประเพณี/
      http://kanom-thai-thai.blogspot.com/2013_03_01_archive.html
      http://www.otopklong3.com/
      https://sixgirl48.wordpress.com//ขนมไทยมงคล/ขนมทองเอก/
      https://sixgirl48.wordpress.com//ขนมไทยมงคล/จ่ามงกุฎ/
      http://www.aroiho.com/2012/07/สูตรขนมไทย-ขนมชั้น-ขนมไทยที่มีมาช้านาน/
      http://kanomthaiboran13.blogspot.com/p/blog-page_1797.html
      https://www.google.co.th/search?         q=%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9F%E0%B8%B9&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwix_dmG4NHWAhXMvI8KHXGjB30Q_AUICigB&biw=1920&bih=935#imgrc=jIZSlSscMunG5M:
https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94&tbm=isch&tbs=rimg:CUQro92xlv2RIjjY1ArOau42EB6AfV6X-1fY3ufPze-Ody-SZLC3v4ZCR4Jkx-ty6SHVcJoKyb0TNUSnBBJYExsGCioSCdjUCs5q7jYQEfaB7lmgObL1KhIJHoB9Xpf7V9gR-L6moYA9rcwqEgne58_1N7453LxFwjQ83bt-yYioSCZJksLe_1hkJHEaip-LzjJpdQKhIJgmTH63LpIdURqKn4vOMml1AqEglwmgrJvRM1RBEx7SGsI98xeyoSCacEElgTGwYKEaip-LzjJpdQ&tbo=u&sa=X&ved=0ahUKEwjq6d2F4dHWAhVMro8KHZB7AP0Q9C8IHw&biw=1920&bih=935&dpr=1#imgrc=nNr_5wYHQ9Un7M:
      https://cookpad.com/th/recipes/1178364-%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A2
      http://xn--q3cp7eza.net/media/images/recipe/%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A2.jpg      https://www.pstip.com/%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2..%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7.html





ความคิดเห็น