แหล่งข้อมูลสื่อมวลชน

“ ขนมไทย สร้างรายได้ ”

จากที่ศึกษาจากสื่อมวลชนนั้นก็ได้รู้ว่า ขนมไทย ของเรานั้น นอกจากจะให้ความอร่อยและเป็นเอกลักษณ์ของไทยแล้ว ขนมไทยก็ยังสามารถสร้างรายได้ได้ด้วย โดยรู้กันอยู่แล้วว่าขนมไทยมีหลายอย่างหลายประเภทมาก มีทั้งทำง่ายและทำยากตามแต่ละอย่างไป เหมือนอย่างที่ จ.พิษณุโลก กลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันทำขนมไทยขายออนไลน์ โดยเพื่อนในกลุ่มช่วยกันโพสต์ลงขายในเฟสบุ๊ค ผลปรากฎว่าผลตอบรับดีเกินคาด หลังยอดการสั่งมากกว่า 300 กล่องภายใน 5 วัน พอเห็นว่าขายดีก็เลยลงทุนกับเพื่อนเช่าทาวน์เฮาส์และเปิดหน้าร้านใช้ชื่อว่า “บ้านขนมไทยนางใน” โดยมีขนมไทยชาววังที่ขายดี เช่น บุหลันดั้นเมฆ ,เกสรชมพู่ ,พระพาย และอีกมากมาย แต่ที่ขายดีสุดก็คือ บุหลันดั้นเมฆ ทั้งขายดีทั้งทำยากสุด โดยมีสูตรของทางร้านเองด้วย ราคาของบุหลันดั้นเมฆก็อยู่ที่กล่องละ 50 บาท ขนมไทยอื่นจะอยู่ที่กล่องละ 35 บาท 3 กล่อง 100 บาท ถ้าใครอยู่แถวพิษณุโลกก็อย่าลืมไปอุดหนุนกันนะคะ

ไปอีกหนึ่งจังหวัด “ ป้าแจ้ว ขนมใส่ไส้มะพร้าวน้ำหอมสูตรโบราณ หวานละมุนลิ้นที่สุโขทัย “ ป้าแจ้วเล่าให้ฟังว่าทำขนมใส่ไส้ขายกับสามีมานานกว่า 40 ปีแล้ว ตั้งแต่ห่อละ 50 สตางค์ จนตอนนี้ห่อละ 3 บาท 7 ห่อ 20 บาท โดยสูตรของป้าแจ้วจะใช้มะพร้าวน้ำหอมและการนึ่งแบบเตาถ่านโบราณนั้นเอง ป้าแจ้วบอกว่าตนกับสามีช่วยกันห่อขนมใส่ไส้วันละ 500 ห่อ แล้วนำใส่รถเข็นขายก็จะมีลูกค้าประจำมาซื้อเป็นประจำ เพราะติดใจรสชาติขนมใส่ไส้ของป้าแจ้ว 

มาดูกันที่ จ.อ่างทอง มีกลุ่มแม่บ้านมาช่วยกันทำขนมไทยเป็นรายได้เสริมช่วงน้ำท่วมกันมากกว่า 20 คนซึ่งเป็นชาวบ้านระแวกนั้นได้มาช่วยกันทำคนละอย่างสองอย่าง ขนมไทยที่แม่บ้านกลุ่มนี้ทำก็จะเป็นขนมไทยทั่วไปเช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน หม้อข้าวหม้อแกง และอีกมากมาย แม่บ้านก็จะมาช่วยกันทำอย่างละหน้าที่แบ่งๆกันไป ตามยอดการสั่งซื้อของลูกค้า โดยกลุ่มแม่บ้านนี้จะมารวมตัวกันทำอาทิตย์ละหนึ่งครั้งตามจำนวนการสั่งของลูกค้า เพื่อเป็นอาชีพเสริมได้นั้นเองค่ะ

เห็นมั้ยคะว่า ขนมไทยของเราเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมานานมาก และควรที่จะอนุรักษ์ขนมไทยต่อไปเพราะนอกจากจะเป็นเอกลักษณ์ให้กับประเทศของเราแล้วยังสามารถสร้างให้เป็นอาชีพได้อีกด้วย




ที่มาแหล่งข้อมูลสื่อมวลชน:
http://money.sanook.com/500929/
https://www.thairath.co.th/content/1053415
http://www.ryt9.com/s/tpd/2690426